หะแรกฟังไม่รู้เรื่องเลยครับ เลยไม่สนใจอะไรมากมาย จนมาวันนึง สดุดกับเมโลดี้ที่สุดแสนจะเรียบง่ายแต่ไพเราะมากเพลงนึง สืบถามมาได้ความว่าเป็นเพลงของ วง X-Japan O_O จากนั้นผมก้อเริ่มลงหารายละเอียดต่างๆ พวกประวัติของคนในวง
พอได้ทราบถึงประวัติของแต่ละคน ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ แต่ผมหลงรักจริงๆมันอยู่ที่เนื้อเพลง ความหมายที่เขาสื่ออกมา และ เสียงร้อง ที่สุดยอด มันไม่ยากส์เลยครับที่ทำให้ผมหลงรักได้
แล้วก็ฝากเว็บดีๆ รวมแฟนคลับของ X ด้วยนะครับ
www.x-japanclub.com
ป.ล. ลองอ่านประวัติของHideดูนะครับ
สมาชิกแต่ละคน
YOSHIKI


Yoshiki เป็นเพื่อนกับ TOSHI มาตั้งแต่เด็ก เรียนรร.เดียวกัน ตั้งแต่อนุบาล ม.ต้น จนถึง ม. ปลาย สมัยแรกๆ YOSHIKI ไม่ยอมเปิดเผยประวัติส่วนตัวของเขา ไม่ว่าจะเป็นชื่อจริง วันเดือนปีเกิด กรุ๊ปเลือด สถานที่เกิด เราจะระบุว่า X ตลอด นั่นเป็นนโยบายของเขาเอง YOSHIKI มักพูดเสมอว่า "X" คือทุกสิ่งทุกอย่างของผม ประวัติของเขาจึงมีแต่ X เต็มไปหมด แต่ด้วยความเป็นเพื่อนกับ TOSHI จึงทำให้รู้ว่า เขาอายุเท่าไหร่ เกิดที่ไหน เหตุผลที่แท้จริงที่เขาไม่ยอมเปิดเผยวันเกิดนั้นก็เพราะว่า เขาจะรู้สึกเขินเมื่อถึงวันเกิดของเขาแล้วทุกคนแสดงความยินดี ทำให้ได้รู้ว่าเขาขี้อายมากๆ ชีวิตในวันเด็กนั้นมีอุบัติเหตุและเหตุการณ์มากมายเช่น ในสมัยประถม เขาจะมีความทรงจำกับรพ.มากกว่ารร. เพราะป่วยเป็นโรคหืดหอบ (ปัจจุบันหายแล้ว), เดินบนถนนกับแม่ก็ถูกมอเตอร์ไซด์ชน ข้ามทางม้าลายก็ถูกรถชน YOSHIKI เองยังพูดว่า "ดวงไม่ดีมันมาแรง" ในวันเกิดครบ 10 ขวบ ตอนที่เขาอยู่ ป.5 เขาได้รับกลองเป็นของขวัญวันเกิดจากแม่ ซึ่งปกติเขาจะได้รับเครื่องดนตรีเป็นของขวัญวันเกิดทุกปีจนถือเป็นธรรมเนียม หลังจากที่เขากลับบ้านก็พบกลองตั้งอยู่กลางห้องและตัวเขาเองก็ไม่เคยสนใจกลองมาก่อนเลย ที่ได้กลองเป็นของขวัญเพราะ พ่อของเขาอยากให้ตีกลองเป็นมือกลองที่ดีให้ได้ และตอนอายุ 5 ขวบ เขาก็ได้รับของขวัญเป็นเปียโน ตัวเขาเอง เริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่ 5 ขวบ เพราะพ่อแม่อยากให้เขาเป็นนักเปียโน นอกจากเรียนเปียโนแล้ว ก็ให้เรียนคัดอักษร วาดภาพ ลูกคิด ภาษาอังกฤษ เรียงความ และการเรียนเปียโนเป็นสิ่งที่เขาเล่นติดต่อกันนานที่สุด แม้ระหว่างนั้นเลิกเล่นไปหลายครั้ง แต่พอเวลาผ่านไประยะหนึ่งเขาก็เริ่มหันมาดีดเปียโนใหม่ เมื่อเข้าเรียน ม.ต้น ร่างกายของเขาเริ่มแข็งแรงขึ้น และเข้าร่วมชมรมดนตรี เป็นชมรมที่มีชื่อเสียงมาก ชนะการประกวด ได้อัดแผ่นเสียง YOSHIKI เล่นทรัมเป็ต TOSHI เล่นยูนิฟอเนี่ยม แต่ต่อมาเขาเริ่มรู้สึกว่าการเล่นเครื่องดนตรีเบาๆ เริ่มไม่เต็มอารมณ์ จึงหันมาเล่นกีฬา เขาเลือกเล่นฟุตบอล เขาอธิบายว่า "เพราะเป็นกีฬาที่เหมือนคนทะเลาะกัน" และอีกสาเหตุหนึ่งเพราะเขาอยากปล่อยพลังงาน แต่เล่นได้ไม่นานก็เลิกไป และเขามีความคิดที่จะตั้งวงดนตรีขึ้น โดย YOSHIKI เล่นกลอง TOSHI ยังไม่ได้เป็นนักร้องนำ แต่มีหน้าที่เล่นกีตาร์ YOSHIKI เคยเข้าประกวดระหว่างห้องจนกลายเป็นฮีโร่ในห้องเรียนไป เพราะเป็นเด็กเกเรแต่กลับดีดเปีนโนได้อย่างสง่าสาม ไม่เพียงแต่นักเรียน อาจารย์เองก็ตกใจและคิดไม่ถึง เขารู้สึกสะใจมาก ม.3 รร.ที่เขาเรียนแบ่งออกเป็น 2 รร. ตัว YOSHIKI และ TOSHI ถูกย้ายไปเรียนที่ใหม่ ส่วนสมาชิกคนอื่นๆอยู่รร.เก่า เขาพบเพื่อนร่วมชั้นใหม่ คุณครูคนใหม่ ตึกเรียนใหม่ จึงทำให้เขาเริ่มเกเร สร้างปัญหามากมายให้คุณครูและรร.ใหม่ โดยปกติเขาก็ไม่ใช่เด็กเรียบร้อยอยู่แล้ว เขาจึงมีปัญหากับอาจารย์เป็นประจำ ย้อมสีผมตลอดถึงขนาดเคยโดนโกนหัวถึง 3 ครั้ง ชอบซิ่งมอเตอร์ไซด์และอาละวาดในรร.เป็นประจำ หลังสิ้นสุดพิธีจบการศึกษาของชั้น ม.ต้น เขาถือดาบไม้ไปขอบคุณอาจารย์ที่ห้องพักอาจารย์ แสดงว่าเขาร้ายมากๆ ขนาดทำลายตึกใหม่ อาคารต่างๆ จนพัง แต่ถึงกระนั้นเขาก็แตกต่างจากเด็กเกเรทั่วไป เพราะนิสัยที่ไม่ชอบยอมแพ้ใคร จึงทำให้เขาขยันเรียนกว่าเพื่อนๆ ทำให้คะแนนของเขาดีมาก TOSHI ก็เคยบอกว่า "YOSHIKI เก่งทุกอย่าง เป็นเด็กเกเรที่หัวดี" เขาเป็นเด็กเกเรที่ใครๆ ก็รับมือไม่ไหว แต่คะแนนการเรียนของเขานั้นยอดเยี่ยมมากจนเพื่อนๆ อิจฉาสำหรับคุณครูแล้วไม่มีเด็กคนไหนที่ดูแลยากขนาดนี้อีกแล้ว YOSHIKI เริ่มรู้จักกับดนตรีแนว ROCK ตั้งแต่อยู่ชั้น ป.5 และเขาก็รู้จักกับวง KISS จาก POSTER หน้าร้านขายเทป และพอรู้ว่า KISS จะมาแสดง CONCERT ที่ญี่ปุ่นจากหน้าหนังสือพิมพ์ จึงขอให้แม่พาไปดูและเป็นการดูการแสดงสดครั้งแรกของเขา และจากการที่เขาได้ดูการแสดงสดครั้งนี้ ทำให้เขาได้รับอิทธิพลจากการบนเวทีของ KISS และเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาตั้งวงดนตรีขึ้น และเพื่อนที่จะคุยเรื่องนี้ได้ก็มีแต่ TOSHI เท่านั้น ตอนที่เขาได้รับกลองเป้นของขวัญทำให้เขาอยากเป็นมือกลอง แม้ตอนนั้นจะเล่นเป็นแต่เปียโน แต่เขาก็มีความคิดที่จะนำไปใช้กับดนตรีแนว ROCK และคิดจะตั้งวงอย่างจริงจัง เขาเป็นนักร้องนำโดยตีกลองไปด้วย แต่เสียงของเขาเปลี่ยนช้า ทำให้เวลาร้องเพลงก็จะถูกเพื่อนล้อว่า "เสียงเหมือนเด็กทารก น่ารักจัง" ทำให้เขาเลิกร้องเพลงไปเลย เขาเริ่มตั้งวงอย่างจริงจัง ก็ตอนอยู่ ม.1 เขาเป็นหัวหน้าวง ม.2 มีโอกาสแสดงบนเวทีในงานรร. และม.3 ก็ได้จัด CONCERT โดยยืมศาลาประชาชนประจำเมือง ตอนนั้นใช้ชื่อวงว่า "NOISE" YOSHIKI และTOSHI เริ่มแสดงในสถานที่ต่างๆ มาขึ้นและเริ่มแสดง CONCERTของตัวเอง นอกจากนั้นยังเข้าประกวดในงานต่างๆ ด้วย ชีวิตในวัยเรียนของเขาจะเล่นดนตรีเป็นส่วนใหญ่แต่เขาก็ยังเกเรเหมือนเดิม พอขึ้นชั้น ม.ปลาย การต่อต้านเริ่มรุนแรงขึ้น ตัวเขาเองบอกว่า "ชั้น ม.3,4,5 ทั้ง 3 ปี จบลงอย่างสมบูรณ์" ในตอนนั้นเขาไม่สนใจอะไร คิดแต่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง แม้ว่าจะรอดจากการถูกไล่ออก แต่ก็ถูกพักการเรียนไปหลายครั้ง และก็เคยถูกตำรวจจับด้วย แต่พายุแห่งการต่อต้านเริ่มจางลงเมื่อใกล้จะจบชั้น ม.5 เมื่อเขาพบกับปัญหาการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย นอกจาก YOSHIKI และ TOSHI แล้ว สมาชิกคนอื่นๆ ขอถอนตัวหมด
เขาหาสมาชิกใหม่และเปลี่ยนชื่อวงใหม่ว่า "X" ที่เขาตั้งชื่อนี้เพราะเห็นว่าเป็นอักษรตัวเดียวจะสะดุดตามากกว่า เพราะตอนนั้นกำลังฮิตชื่อยาวๆ (ทีแรกเขาไม่จริงจังกับการใช้ชื่อนี้ แต่เพราะยังไม่รู้ว่าจะใช้ชื่ออะไรเลยใช้ไปพลางๆ ก่อนแล้วเกิดชอบใจก็เลยไม่ได้เปลี่ยน) นอกจากจะเล่นเพลงเพลงเลียนแบบ IRON MAIDEN แล้ว ก็เริ่มทำเพลงของตัวเองด้วย เพลง I'LL KILL YOU ที่พวกเรารู้จักกันก็เป็นเพลงที่แต่ในตอนนี้ด้วย แม้สมาชิกจะลาออกไปแต่ YOSHIKI และ TOSHI ก็เห็นว่าการทำวงต่อเป็นเรื่องสมควร ความหวังของเขาคือเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยดนตรี เพราะเขาอยากเป็นนักเปียโน ก็คิดว่าถ้าไม่จริงจังคงไม่เรียนต่อในมหาวิทยาลัยแน่นอน เขาซ้อมวันละ 6 ชม. นิ้วเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเปียโน ทำให้เขาต้องดูแลรักษานิ้วเป็นอย่างดี ขนาดล้มยังเอาเข่าลงแทนมือ แต่เรื่องตีกลองก็เป็นปัญหาสำหรับเขา เพราะครูสอนเปียโนจะดุเขาเรื่องแผลที่เกิดจากการตีกลอง แต่เขาก็ยังไม่ยอมทิ้งกลองระหว่างเล่นเปียโน ตอนนั้นเขาไม่คิดว่าจะประสบความสำเร็จกับวงดนตรีหรือการเป็นนักดนตรีแนว ROCK ซึ่งทำให้ตัวเขาแปลกใจว่า "ตอนนั้นแม้จะถูกครูสอนเปียโนดุด่าเรื่องตีกลองแต่ก็ยังไม่เลิกตีกลอง" เขาขมักเขม้นกับการฝึกทำนอง ซอลเฟจู และคอลยู บูเก็น แต่ก็ยังเล่นกับวงดนตรีแต่เฉพาะช่วงที่ว่างเท่านั้น และ 1 อาทิตย์ก่อนการสอบเข้าก็ซ้อมหนัก แต่จู่ๆ ก่อนการสอบ 1 วัน เขาก็พูดขึ้นมากระทันหันว่า "จะเลิกสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย" เขาบอกกับแม่ว่า "แม่ครับ ผมอยากเป็น ROCK STAR!" เป็นเรื่องที่ทันด่วน ทำให้คนรอบข้างและแม่ของเขาตกใจและสับสนไปตามๆ กัน แต่การตัดสินใจของเขาหนักแน่น ไม่ว่าใครจะหว่านล้อมยังไงก็ไม่สนใจ เขาเริ่มที่จะแต่งเพลงและเล่นเองอย่างอิสระ แต่เขาก็ยังมีความคิดที่ว่า "เพลงคลาสสิคเป็นการเลียนแบบเพลงคนอื่น" ในการประกวดตอน ม.6 TOSHI ได้รับรางวัล BEST VOCAL และ YOSHIKI ได้รับรางวัล BEST DRUM และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจเช่นนั้น แถมยังรู้สึกว่าตัวเองอาจมีความสามารถที่ไม่จำกัดแฝงอยู่ด้วย (อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาใช้ชื่อวงว่า X เพราะเขาเคยบอกว่ามันหมายถึง ความไม่มีที่สิ้นสุดหรือ INFINITY) เมื่อเขารู้สึกว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยดนตรีเพื่อเป็นนักดนตรีมันตัน ก็ทำให้ความฝันในการตั้งวง ROCK ในใจเขาเริ่มพองโตขึ้น การที่เขาล้มเลิกการเข้าเรียนต่อ เขาก็นัดแนะกับ TOSHI ว่า "เอาวะไปตายเอาดาบหน้า กะว่าถ้าแม่ของเราด่าก็เก็บกระเป๋าก้าวลงบันได้ไปโตเกียวเลย" ปรากฏว่าที่บ้านของทั้ง 2 ตกใจมาก แต่ก็ไม่ห้ามอะไร อยากไปนักก็ให้ไป ทั้ง 2 ก็ขึ้นรถไฟไปโตเกียวหลังจากที่เรียนจบม.6 เพื่อที่จะทำให้ X เจริญเติบโตขึ้น เขากับ TOSHI เริ่มทำงานพิเศษพร้อมกับหาสมาชิกไปด้วย ทั้ง 2 เช่าอพาร์ตเมนท์อยู่ด้วยกัน ทำงานพิเศษทุกอย่าง ไม่ว่าจะเสิร์ฟอาหารกวาด-ถูพื้นร้าน ระหว่างทำงาน ก็ทำเพลงไปเสนอค่ายเทปด้วย แต่เงินที่ได้มาก็ไม่พอใช้ ในที่สุดเขาก็เขียนจม.ไปขอตังค์แม่ของเขา ซึ่งแม่ของเขาก็ให้ YOSHIKI ชอบสไตล์ผมและการแต่งหน้าแบบตนเอง ไม่เหมือนใคร ทรงผมของเขานั้นก่อนเข้าวงการคือ ผมตั้งแบบหอยเม่น และมักจะทำผมตั้งขึ้นเวทีอยู่เสมอ ตอนที่ X เปลี่ยนสมาชิกวง ทำให้แสดงดนตรีไม่ได้ เขาได้ไปช่วยวงอื่นตีกลอง ตอนนั้นเขาไม่มีเวลาเลยขึ้นไปแสดงบนเวทีทั้งที่ผมตั้งแค่ครึ่งเดียว เมื่อตั้งผมครึ่งเดียวจึงแต่งหน้าซีกซ้ายและขวาไม่เหมือนกัน ครึ่งนึงเป็น PUNK อีกครึ่งเป็น HEAVY METAL มันแสดงถึง 2 บุคลิกในคนเดียว เจ้าตัวเองก็ชอบใจเอามาก สาเหตุที่ถูกใจมากที่สุดก็คือ ดูเด่นดีและไม่เหมือนใคร จากที่ต้องเปลี่ยนสมาชิกของ X ตอนนั้นมีแค่ YOSHIKI และ TOSHI เท่านั้น การซ้อมที่มีมือกลองและนักร้องนำนั้นทำไม่ได้ และคนที่เป็นกำลังใจให้ YOSHIKI ก็คือ TOSHI นั่นเอง TOSHI มักจะอยู่เคียงข้าง YOSHIKI เสมอมา TOSHI บอกว่าตอนนั้นรู้สึกว่าควรทำอะไรให้มันติดต่อกัน สมาชิกเปลี่ยนบ่อยมากถึงขนาดเคยคิดว่า "ถ้าเอาหินปาใส่นักดนตรีใน HARAJUKU คงจะถูกอดีตสมาชิกวง X สักคนหนึ่ง" ซึ่งหลังจากที่ YOSHIKI สามารถทำให้ TAIJI ยอมเข้าวงได้ก็เริ่มการแสดงสดอย่างจริงจัง แถมยังมีการอาละวาดบนเวที ล่างเวทีก็ทะเลาะกับเจ้าหน้าที่ในงานดื่มฉลองหลังเสร็จงาน ทั้งผู้เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้อง นักดนตรีและแฟนเพลงแน่นไปหมด จึงทะเลาะกันใหญ่เป็นประจำทุกวัน YOSHIKI ชอบทำแก้วในร้านแตกหมดและชอบเหวี่ยงขวดเบียร์หลาย 10 ขวด จนเป็นข่าวลืออยู่เป็นประจำ เลยทำให้ร้านเหล้าห้ามไม่ให้เขาเข้ามากขึ้น ถึงขนาดที่ร้านเหล้าแถว SHIBUYA ต้องตรวจหาว่า " มีคุณ YOSHIKI มาด้วยรึเปล่า" YOSHIKI นั้น มีท่าทางยิ้มแย้มและสุขุมมากเหมือนเด็กหนุ่มที่น่ารัก ในเวลาพักผ่อนเขาเป็นคนร่าเริง พูดเก่งและเป็นมิตรมาก จากท่าทางการเดินเทเหล้าในสมาชิกวงดนตรีอื่นๆ ในวงเหล้านั้น ไม่มีท่าทีอันบ้าระห่ำที่ว่า "เป็นมือกลองที่พอเมาแล้วเหมือนสัตว์ประหลาดอาละวาด" หลงเหลืออยู่เลย มันแตกต่างจากคำเล่าลืออย่างสิ้นเชิง หน้าตาที่ล้างเครื่องสำอางค์ออกนั้นงดงามมากจริงๆ ในการสัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง เขาพูดถึง CONCERT กลางแจ้งที่ HIBIYA TOSHI จะล้อ YOSHIKI ว่า "ถ้าจะฆ่า YOSHIKI ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ แค่ให้เล่นเพลงเร็วๆ ติดต่อกันก็พอแล้ว" ทำให้ YOSHIKI ตอนพักหายใจแล้วพูดว่า "เมนูการแสดงกลางแจ้งมันสุดยอดแล้ว แต่มันอาจเป็นวันตายของผมก็ได้ครับ" YOSHIKI มีดี 2 ด้านคือ สามารถเล่นกลองหนักๆ ได้ เหมือนมนุษย์มหัศจรรย์และพลังในการ SOLO กลองมันอัดแน่นมาก แต่ในทางกลับกันก็เล่นเปียโนได้อ่อนหวาน นับเป็นอะไรที่เปลกและน่าประทับใจจริงๆ และในเมื่อ X คือทุกสิ่งทุกอย่างของ YOSHIKI ดังนั้นอย่าแปลกใจที่ประวัติของเขาไม่ได้จบลงท้าย ด้วยคำพูดที่สวยงาม ถ้าคุณได้อ่านประวัติของ X ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว มันก็เหมือนกับคุณได้อ่านประวัติของ YOSHIKI เช่นกัน
HIDE



ที่เป็นเด็กประถม เจ้าตัวบอกว่าเขาอ้วนมาก เหมือนลูกโป่งเลย (คงประมาณ 80 กก.) แต่ตอนอนุบาลไม่อ้วน มาเริ่มอ้วนสมัยประถม มันเป็นเหมือนปมด้อยในชีวิตเขาเลย แต่ความอ้วนก็มีข้อดีเหมือนกัน HIDE บอกว่าทุกคนจะจำเขาได้อย่างรวดเร็ว ตอนที่ย้ายห้องใหม่ๆ ที่ครูจำได้เพราะอ้วนที่สุด หรือไม่ก็ที่ 2 ของห้อง ตอนพักกลางวันที่สนามของรร.มีแต่คนอ้วนทั้งนั้นเลย แล้วครูก็บอกว่าความอ้วนจะเกิดปัญหากับหัวใจ แล้วครูก็บังคับให้เขาออกกำลังกาย ทุกคนในรร.ก็มองลงมาที่สนามที่มีคนอ้วนที่ถูกบังคับให้วิ่ง มันเจ็บปวดมากเลยสำหรับเขา แต่ครูที่เป็น TRAINER บอกว่า "จะทำให้พวกเธอผอมให้ภายในไม่กี่เดือน" ครูของเขาก็เป็นคนอ้วนเหมือนกันเลยไม่ยอมวิ่งกันและมันก็ไม่ได้ผลด้วย ตอนม.3 เขาสูง 150 ซม. แต่หนัก 70 กก. นับว่าอ้วนที่สุดแล้ว แต่พอขึ้นม.ปลาย การกินของเขาก็เปลี่ยนไป เวลาขอเงินแม่บอกว่าจะไปซื้อขนมปังกิน แต่จริงๆ เอาเงินเก็บไว้ซื้อของอื่นๆ เช่น พวกเสื้อผ้า SATIN เลยไม่กินข้าวกลางวัน กลับถึงบ้านก็ไม่กินแต่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปเที่ยวต่อทันที พอทำอย่างนี้ก็ผอมลงเรื่อยๆ เลยคิดว่า "ทำแบบนี้ดีนี่" เลยไม่กินซะเลย วันนึงกินแค่มื้อเดียวหรือไม่กินเลย ผอมลงมาก 2 เดือน นน.ลดตั้ง 20 กก.อย่างสบายๆ ผอมลงจนเหมือนคนละคน ทางบ้านจะสนับสนุนให้ HIDE เรียนพิเศษมากมายเยอะไปหมด ไม่ว่าจะภาษาอังกฤษ ลูกคิด เคนโด คาราเต้ คัดอักษร เปียโน อันนี้เป็นสิ่งเดียวที่ไม่อยากเรียน พูดไปก็ร้องไห้ไป แม้ว่าเขาจะได้รับความสนับสนุนทางด้านการเรียนเป็นอย่างดี แต่เขาก็ไม่ค่อยใส่ใจกับการเรียนเท่าไหร่นัก แม้จะไปรร.ทุกวันเหมือนเด็กขยัน เขาชอบขี่จักรยานมากกว่าที่จะไปนั่งสนใจเกี่ยวกับการเรียน เขาเรียนตั้งแต่ประถมจนถึงม.ต้น คำพูดที่แม่จะพูดเวลาที่เขากลับบ้านคือ "วันนี้ไปเรียนนู่น วันนี้ไปเรียนนี่" ตารางเวลาถูกจัดไว้อย่างดีโดยพอแม่ของเขา แต่เมื่อเขามาคิดๆ ดูแล้ว สิ่งที่เขาเรียนมาทั้งหมดในตอนนั้น มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยในปัจจุบัน ถ้าเรียนเปียโนยังจะมีประโยชน์เสียกว่า แต่เขาเกลียดสิ่งนั้นจริงๆ สมัยป.4 พ่อแม่ส่งให้เขาไปเข้าร่วมทัวร์สำหรับเด็กที่พาไป CANNADA และ LA. เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง เขาถูกส่งไป SHIKOKU เพียงลำพัง พ่อแม่ของเขาคิดว่าอนาคตอยากให้เขาเป็นคนที่มีความเป็น INTER แต่พอถามถึงความทรงจำในสมัยนั้น สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือการได้ไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะไม่มีเรื่องน่าอายเกิดขึ้นนั่นเอง ตอนแรกเขาไม่มีความสนใจในดนตรี ROCK เท่าไหร่นัก เหตุผลหนึ่งก็คือ เด็กคนที่เขาไม่ชอบหน้าเอามากๆ คนนั้นคลั่งไคล้ในการฟัง AERO SMITH มาก เวลาที่ HIDE ไม่ชอบใคร เมื่อคนๆ นั้นทำอะไรก็พลอยทำให้ไม่ชอบไปหมด ดังนั้น ดนตรี ROCK ในช่วงนั้นก็ขวางหูขวางตาไปด้วย แต่เหตุผลที่เขาเริ่มมาสนใจไม่ใช่เพราะเขาเลิกเกียดเด็กคนนั้น แต่เป็นเพราะช่วงม.2 เขาได้ฟังเพลงของ KISS ALBUM : ALIVE เขาชอบมากและเริ่มสนใจดนตรี ROCK อย่างจริงจังและขยายไปจนถึง PUNK เขาหานิตยสารเกี่ยวกับ KISS มาอ่าน อีกทั้งยังสมัครเข้าเป็น FANCLUB อีกด้วย เขาจะยืนคอยจม.ตอบรับทุกวันที่ตู้จม.หน้าบ้าน นอกจาก KISS แล้วเขาก็ชอบ LED ZEPPLINE, QUEEN โดยเฉพาะวง JAPAN ที่ปลื้มเป็นพิเศษ เพราะวงนี้จะแต่งหน้าเหมือนผู้หญิงและมีทรงผมแปลกๆ ทำให้วงนี้น่าสนใจสำหรับ HIDE มาก อีกเหตุผลหนึ่งเป็นเพราะสมัยก่อนไม่มีวงแบบนี้ให้เห็นบ่อยนักเมื่อได้เห้นต่างก็แปลกใจ รวมทั้ง HIDE ด้วย เขาเริ่มสนใจเล่นกีตาร์ ตอนแรกจะเล่นไม้เทนนิสแทนกีตาร์ โพสท่าหน้ากระจก แถมยังบอกว่า "มันใช้ได้เหมือนกัน" เขาดีดไม้ เทนนิสมาเกือบปี พอขึ้นม.3 ยายก็ซื้อกีตาร์จริงๆ ให้สมใจอยาก เป็นของ GIBSON รุ่น LESPAULเป็นรุ่นที่ดีมากสำหรับนักเล่นกีตาร์มือใหม่ สำหรับเด็กม.3 กีตาร์รุ่นนั้นนับว่าหรูอย่าบอกใครเชียว เพื่อนๆ ในห้องพากันอิจฉาและจะเรียกเขาว่า "นาย GIBSON" เขาภูมิใจกับชื่อนี้มาก สมัยม.ปลาย ครั้งหนึ่ง ตอนสอบสัมภาษณ์เพื่อขอโควต้าเข้าเรียนต่อ คนสัมภาษณ์ถามว่า ทำไมถึงเลือกมาสอบที่นี่ เขาก็ตอบว่า "ไม่มีที่ไปนอกจากที่นี่เพราะเป็นที่เดียวที่สอบได้" จึงทำให้เขาไม่ได้รับคัดเลือก เขาไม่ค่อยสนใจเรื่องเรียนเท่าไหร่นัก ขนาดไม่รู่ว่า รร.ที่ไปสอบเข้าเป็น รร.ชายล้วน เขาเบื่อ รร.มาก เขาไปเรียนเพื่อให้ครบตามที่รร.กำหมดไว้เท่านั้นเพื่อจะได้เลื่อนชั้น HIDE เกลียดวิชาพละเลยโดดวิชานี้เป็นประจำ ที่รร.เคร่งครัดเรื่องผมมาก ห้ามทัดหู ห้ามย้อมผม ดัดผมก็ไม่ได้ HIDE ไว้ยาวแค่ 3 ส่วนแล้วใช้กิ๊บติดด้านหลัง เขาบอกว่ามันลำบากมากเลย ตอนย้อมผมก็ใช้สเปรย์ฉีดทับ ตอนปิดเทอมหน้าร้อน เขาก็ให้ยายย้อมผมให้เพราะยายเป็นช่างเสริมสวย แต่พอบอกพ่อแม่ว่าอยากย้อมผมก็ถูกพ่อแม่ดุเอา แต่ยายจะพูดว่า "ก็ลองทำดูสิ" เพราะตัวยายเองก็ย้อมสีม่วงบ้าง เขียวบ้าง ยายเป็นคนเปรี้ยวมาก (ใน ALBUM: BLUE BLOOD ชุดส่าหรี่สีน้ำตาลของอินเดียที่ HIDE ใส่ตอนถ่ายรูป ก็เป็นชุดที่ยายใส่เดินไปเดินมา HIDE บอกว่ายายของเขาเท่ห์มากเลย) นอกจากเรื่องผมแล้วที่ รร.ยังห้ามเล่นดนตรี ROCK อย่างเด็ดขาด ในหนังสือคู่มือนักเรียนก็เขียนไว้ว่า กีตาร์ไฟฟ้าเป็นสิ่งต้องห้าม เขาผิดหวังมาก เพราะเขาตั้งใจว่าเมื่อเข้าม.ปลายจะตั้งวง แม้ว่ารร.จะห้ามเล่นดนตรี แต่เขาก็ตั้งวงของตัวเองได้ เพราะที่ YOKOSUGA มี PUB และ LIVE HOUSE สำหรับทหารอเมริกันมากมาย เพราะฉะนั้นการตั้งวงดนตรีก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ขณะนั้นเขาก็ตั้งวงชื่อSABER TIGER นโยบายของวงคือ ทำอะไรก็ได้ให้เลิศหรูและเวอร์ที่สุด HIDE กับเพื่อนๆ ก็ทำผมเหมือนวง JAPAN HIDE เองก็ใส่โซ่อันที่ไปขโมยมาจากมอเตอร์ไซด์ที่ลาดจอดรถอีกด้วย แรกๆ SABER TIGER จะเล่นเพลงของวงที่ดังๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ฝีมือของทุกคนก็เริ่มดีขึ้นจึงเริ่มที่อยากจะเล่นเพลงของตัวเองบ้าง HIDE เองก็คิดว่าเป็นเรื่องดีเพราะจะทำให้คุณภาพของวงดีขึ้น เขาจึงเริ่มเข้มงวดกับสมาชิก เขาเปลี่ยนสมาชิกหลายต่อหลายครั้งเพื่อให้ได้เสียงดนตรีตามที่เขาต้องการ เขาเรียกการเปลี่ยนสมาชิกของวงว่า "แผนการตัดหัวที่น่าสะพรึงกลัว" เขาใช้สิทธิ์หัวหน้าวงอย่างเต็มที่ ด้วยชุดที่หรูหราในระยะหลัง SABER TIGER ได้รับความนิยมเรื่อยๆ จนได้แสดงใน LIVE HOUSE ประจำในโตเกียว (ตอนนั้น SABER TIGER มีชื่อเสียงมากกว่า X อีก) แต่ก็ยังมีการเปลี่ยนสมาชิกในวงหลายครั้งหลายหน จนกระทั่ง HIDE ประกาศว่าถ้ามีใครสักคนลาออกไปอีกก็จะยุบวงทันที เพราะ HIDE เชื่อมั่นว่าสมาชิกชุดนี้จะไปได้สวย และเขาเองก็เหน็ดเหนื่อยกับการเปลี่ยนตัวสมาชิก และในที่สุดก็มีสมาชิกคนหนึ่ง (TETSU) ลาออกไป HIDE จึงตัดสินใจยุบวง SABER TIGER ที่ตั้งมานานถึง 6 ปี หลังจากจบ ม.ปลาย HIDE สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ เขาตัดสินใจจะไปเรียนเสริมสวยเพราะที่บ้านมีกิจการอยู่แล้ว และจะทิ้งดนตรีอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าใครจะมาชวนก็ปฏิเสธตลอด ไม่ว่าเพื่อนๆ จะห้ามยังไงเขาก็ไม่เปลี่ยนใจ คืนก่อนที่ HIDE จะไปตัดผม ขณะนั้นเอง YOSHIKI ก็โทรมาหา HIDE พูดว่า "พรุ่งนี้ฉันจะไปตัดผมแล้ว" YOSHIKI พูดเพียงประโยคเดียวว่า "ลองมาทำกับฉันอีกครั้งเถอะ" HIDE ก็ตอบรับอย่างง่ายดาย และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่มาเป็นสมาชิกของวง X อย่างเป็นทางการเมื่อปี 1987 นอกจากงานของ X และงาน SOLO เดี่ยวของเขาแล้ว HIDE ยังทำงานการกุศลต่างๆ มากมาย เช่น การบริจาคเลือด การบริจาคไขสันหลังให้แก่ผู้ป่วยโรค GM1 Ganglios Dose Type 3 (อาการของโรคคือ เส้นประสาทล่วงล้ำไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย มีผลให้กล้ามเนื้อเสื่อมสภาพลงและยังไม่สามารถรักษาได้ พบผู้ป่วยทั่วโลก 23 ราย) และยังทำเข็มกลัดที่มีข้อความว่า "THANK YOU" เพื่อให้เป็นที่ระลึกผู้ที่เขียนบริจาคไขกระดูกโดยฝีมือการออกแบบของเขาเอง HIDE ได้รู้จักผู้ป่วยโรคนี้รายหนึ่ง เธอชื่อ MAYUKO (17 ปี) เมื่อปี 1996 ที่จังหวัด WAKAYAMA หลังจากนั้น HIDE ก็เป็นพ่ออุปถัมภ์ของเธอ เขาคอยเป็นกำลังใจให้เธอต่อสู้กับโรคร้ายนี้ มีนาคม 1996 อาการของเด็กคนนี้ทรุดหนักจนต้องผ่าตัดที่โรงพยาบาล เมื่อ HIDE ได้ข่าวก็รีบไป เขาตะโกนผ่านกระจกห้องปลอดเชื้อว่า"ALBUM ต่อไปจะใส่ชื่อ MAYUKO ลงไปด้วยนะ เธอต้องรอดตายให้ได้นะ" เขาพูดคำๆ นี้อยู่เกือบ 2 ชม. จนกระทั่งฤดูร้อนของปีนั้น MAYUKO ได้ออกจากโรงพยาบาล และใน ALBUM : PSYENCE ก็ได้ใส่ชื่อของเธอไว้ใน SPECIAL CREDIT ด้วย เช้าของวันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม 1998 เวลา 7.30 น. แฟนของเขาเข้ามาพบ HIDE ในสภาพหมดสติ แต่ยังคงมีลมหายใจที่แผ่วเบาอยู่ ซึ่งคอของเขาแขวนอยู่กับผ้าเช็ดตัวซึ่งถูกฉีกออกเป็น 2 ส่วนตามยาว ผูกปลายผ้าเข้าด้วยกันแขวนอยู่กับลูกบิดประตูห้องนอนของเขาที่แมนชั่น (ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 เขต MINATO ,TOKYO) เธอรีบโทรแจ้ง 119 ทันที HIDE หมดลมหายใจ เมื่อเวลา 8.52 น. ขณะนำตัวส่งโรงพยาบาล จากการชันสูตรศพพบว่ามีแอลกอฮอร์ปริมาณมากพอสมควรในเลือด ซึ่งคนเมาขนาดนั้นไม่น่าจะมีสติในการทำสิ่งใดๆ จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่น่าจะใช่การฆ่าตัวตาย อีกทั้งยังไม่มีเหตุจูงใจใดๆ เพราะงานต่างๆ ของเขาก็ประสบความสำเร็จด้วยดี นักจิตวิทยา "สันนิษฐาน" ว่าเกิดจากโรคเอเลเพนอล หรือ โรคนอนละเมอ นักจิตวิทยากล่าวว่า เมื่อเขาตกอยู่ในอาการง่วงหรือเบลอ เนื่องจากความมึนเมา ครึ่งหลับครึ่งตื่น อาจทำพฤติกรรมที่ผิดไปตามธรรมดาโดยไม่รู้ตัว เรียกว่าอาการ โรคนอนละเมอ เนื่องจากฝันร้าย พิธีศพจัดขึ้นวันที่ 7 พฤษภาคม ที่วัด CHIKUCHIHONGANGI ศพและกีตาร์ทั้งหมดของเขาตั้งไว้ในโบสถ์ ครอบครัว ญาติ เพื่อนๆ รุ่นน้องที่นับถือ HIDE ในวงการ MAYUKO และแฟนเพลงจำนวนกว่า 12,000 คน มารวมตัวกันเพื่อไว้อาลัยให้แก่ HIDE หลังจากที่เขาเสียชีวิต พระได้ตั้งชื่อให้เขาว่า "SHUTOKU INSHAKU JION" ตามประเพณีของญี่ปุ่น หลังจากประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว สถานที่ฝังศพก็คือที่บ้านเกิดของเขาเอง ส่วนอัฐิได้แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่ญี่ปุ่น และอีกส่วนหนึ่งนำไปลอยที่ทะเลสาบ SATAMONIKA, LA. ตามความต้องการของเขา แม้ตอนนี้เขาได้จากเราไปแล้ว หากแต่ชื่อและความดีของเขายังคงอยู่ต่อไปอีกนานแสนนาน...
TOSHI


ความทรงจำในวัยเด็กของ TOSHI เขาจะเน้นว่า เป็นคนธรรมดาสามัญมาก ครอบครัวมีฐานะปานกลาง อาศัยในชนบทที่สบายๆ ทั้งครอบครัวจะชอบเบสบอล จะไปเชียร์ทีมไจแอนท์เป็นประจำ คุณปู่คุณย่าชอบเลี้ยงเป็ดไว้ในบ้าน เขาบอกว่าคะแนนวิชาดนตรีจะดีมาก แต่กับวิชาอื่นๆ ก็เกือบได้เกือบตก ที่เขาสามารถเป็นนักร้องของ X ได้นั้นเป็นเพราะเขาอยู่กับดนตรีมาตั้งแต่เด็ก คุณแม่เป็นครูสอนเปียโน คุณพ่อเคยชนะการประกวดคาราโอเกะ เขาก็มีความสามารถทางด้านดนตรีมาตั้งแต่เด็ก แค่ฟัง MELODY ครั้งเดียวก็สามารถดีดเป็นดนตรีได้แล้ว อีกอย่างก็คือ ความที่เขาอยากเด่น เขามักจะเป็นหัวหน้าชั้น หัวหน้านักเรียน ประธานเชียร์ เป็นจุดเด่นในรร.เสมอมา TOSHI พบกับ YOSHIKI ตั้งแต่เรียนชั้นอนุบาล หลังจากนั้นเขาก็เรียนด้วยกันมาตลอด บ้านของพวกเขาห่างกันแค่ 10 นาทีถ้าขี่จักรยาน YOSHIKI นั้นเรียนเปียโนมาตั้งแต่เด็กแล้วก็ชอบเพลง ROCK ด้วยทำให้ถูกคอกับ TOSHI ที่ชอบแนวนี้เหมือนกัน เพราะใน ร.ร. ประถมนอกจาก 2 คนนี้แล้ว คนอื่นไม่สามารถคุยเรื่องเพลง ROCK ได้ จึงทำให้พวกเขาเริ่มตั้งวงตั้งแต่ ป.5 แต่ได้เริ่มตั้งจริงๆ ก็ตอน ม.1 ตอนนั้น TOSHI เล่นกีตาร์ แต่พอ ม.3 ร.ร. ม.ต้นแยกเป็น 2 ร.ร. เมื่อนักร้องนำย้ายไปอยู่อีกร.ร. TOSHI จึงได้เป็นนักร้องนำแทน เพราะเขาชอบร้องเพลงต่อหน้าผู้คน เลยเลิกเล่นกีตาร์ที่ซ้อมเท่าไหร่ก็ไม่เก่งขึ้นสักที แต่ว่า TOSHI สมัย ม.ต้นไม่ได้ทำแค่วงดนตรีอย่างเดียว ตอน ม.ต้นเขาอยู่กับการซ้อมที่เข้มงวด ความอดทนการออกเสียงดังๆ และความสามารถทางกีฬา เมื่อได้มาเป็นนักร้องนำวง X ลักษณะพิเศษต่างๆ ที่แสดงออกมาก็ได้มาจากตอนอยู่ชมรมวอลเล่ย์บอลนั่นเอง แม้จะอยู่ชมรมกีฬาแต่ก็เล่น CONCERT เป็นประจำ วางแผนงานกันเอง แม้ต้องขนเครื่องดนตรีเองก็ทำ ตอนนั้นใช้ชื่อวงว่า NOISE พออยู่ ม.5 ก็เปลี่ยนมาเป็น X ดังขนาดที่ว่าไม่มีใครในทาเทยาม่าไม่รู้จัก ในงาน ร.ร. ตอน ม.6 มีคนมาดูเขาเล่นกันเป็นพันๆ คน แม้จะอยู่แค่ ม.ปลาย พวกเขาก็ก้าวไปถึงจุดสูงสุดในทาเทยาม่า เขาเริ่มต้นเข้าประกวดเพื่อเป็นการทดสอบฝีมือของเขาเอง และส่วนใหญ่ก็จะได้รางวัลยอดเยี่ยมหรือรางวัล BESTVOCALIST เมื่อทั้งคู่มั่นใจในฝีมือของตนการประกวด จึงตัดสินใจเดินทางเข้าโตเกียว พวกเขาต้องพบกับความยากลำบาก อย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน เพราะที่นี่มีนักดนตรีเก่งๆ ที่อยากเป็น ROCK STAR มากมาย แม้พวกเขาจะเด่นแต่เทคนิคยังสู้นักดนตรีคนอื่นๆ ไม่ได้ ทำให้ยากต่อการหาสมาชิกร่วมวง และสาเหตุที่ต้องย้อมผมเป้นสีทองก็เพราะว่า วันหนึ่งทั้งคู่ได้ยินคนที่จะมาสมัครเข้าวงย้อมผมเป็นสีทอง ทั้งคู่จึงรีบไปย้อมผมเป็นสีทองด้วย เลยขอวางมาดเท่ห์ไว้ก่อน หลังจากเดินทางเข้าโตเกียวครบ 1 ปี พวกเขาก็ได้แสดงสดใน LIVE HOUSE ชื่อ ลา มาม่า(ปัจจุบันก็ยังอยู่ที่ย่านชิบูย่า) การแสดงสดครั้งนี้ นับว่าเป็นเกียรติประวัติของพวกเขาเลยทีเดียว ในช่วงกลางวันจะใช้คัดเลือกสมาชิก ช่วงกลางคืนเป็นเวลาของการแสดง พวกเขาจะจัดจำหน่ายตั๋วใบละ 500 เยน และในแต่ละครั้งจะมีคนดูเพียง 20 คนเท่านั้น แต่พวกเขาก็ไม่ย่อท้อ แม้ตะต้องทุบประปุกกินกันก็ยอม แต่พวกเขาก็เชื่อมั่นว่า X จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน จึงทำให้พวกเขาไม่ย่อท้อแม้แต่น้อย 14 กุมภาพันธ์ 1997 TOSHI จดทะเบียนสมรสกับนางสาว KAORI (27 ปี) ทั้คู่รู้จักกันครั้งแรกในเดือนตุลาคม 1993 ในการแสดงละครเวที ROCK OPERA HAMLET ใช้เวลาดูใจกันนานถึง 3 ปี “ผมเชื่อใจในเธอ สำหรับผมแล้ว เธอมีความหมายในชีวิตผมมาก เธอเป็นคนที่เติมเต็มชีวิตผมให้สมบูรณ์” วันรุ่งขึ้น TOSHI ประกาศเรื่องการแต่งงานให้กับแฟนๆ ได้ทราบใน SOLO CONCERT ของเขาว่า “ผมอยากบอกให้แฟนๆ ทราบในเรื่องที่ผมแต่งงานกับเธอ และผมยืนหยัดอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะแฟนๆ ทุกคนที่ให้การต้อนรับผมด้วยดีมาตลอด ขอบคุณครับ” 20 เมษายน 1997 TOSHI ขอลาออกจากวง ด้วยเหตุผลก็คือ ความแตกต่างของแนวความคิดทางด้านดนตรี 31 ธันวาคม 1997 TOSHI กลับมาเล่น CONCERT THE LAST LIVE ที่ TOKYO DOME ให้กับ X อีกเป็นครั้งสุดท้าย ปลายปี 1998 TOSHI และ KAORI เข้าร่วมลัทธิ RUMERIA ของ MASAYA ตั้งแต่นั้นมานิสัยเขาก็เปลี่ยนไป หงุดหงิดง่าย เปลี่ยนการแต่งตัว ถือมังสวิรัต ไม่กินพืชที่เติบโตจากปุ๋ยวิทยาศาสตร์ ใช้เงินเปลือง ใช้คำพูดและสรรพนามแปลกๆ ปฏิเสธแฟนเพลง เขาบอกว่า TOSHI ในอดีต (สมัยที่ยังอยู่กับ X) นั้นตายไปแล้ว ฯลฯ ครอบครัวและแฟนๆ ของเขาได้แต่ภาวนาและหวังให้ TOSHI กลับมาเป็นคนเดิม ...
TAIJI

GREATS BASS
[youtuve]http://www.youtube.com/watch?v=tGy1d5jonyI[/youtube]
สมัยเด็ก เขาเป็นเด็กที่ซุกซนมาก มีแผลทั้งตัว เก่งด้านกีฬามาตั้งแต่เด็ก สมัยประถมก็เริ่มเล่นกีตาร์ของพ่อ พ่อจึงเป็นนักกีตาร์คนแรกสำหรับเขา เขาเริ่มมารู้จักกับดนตรีอย่างจริงจังเมื่อตอน ม.3 เขาตั้งวงชื่อว่า TRASH ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงตาม LIVE HOUSE ในโตเกียวบ้าง ตอนนั้นเขายังเล่นกีตาร์อยู่ พออายุ 18 ปี วงก็ยุบไป และได้เข้าร่วมกับ DEMENTIA ในฐานะมือเบส จากนั้น 1 ปี ก็ลาออกจากวง ในขณะที่หาวงใหม่อยู่นั้น YOSHIKI ก็โทรมาชวนเข้า X แต่ตอนนั้นชื่อเสียงของ X ไม่ค่อยจะดีนัก พอฟังเพลงของ X ก็รู้สึกปวดหัว ทำให้เขาปฏิเสธไปแต่ก็สัญญากับ YOSHIKI ว่าจะไปดื่มพนันกัน 1 ครั้ง TAIJI มั่นใจในคอของตนเองมากเขาบอกว่า “กินเหล้าโปจูได้ 40 แก้ว” YOSHIKI ก็ได้แต่ “แฮะๆ เก่งนะ” TAIJI ถึงกับฉุนทีเดียว ทั้ง 2 ไม่ชอบแพ้ใครเป็นที่สุดทำให้การดวนเหล้าในครั้งนั้นน่ากลัวมากต่างฝ่ายต่างดื่มแบบไม่ลืมหูลืมตาเพราะกลัวแพ้ ทำให้ TAIJI ที่ไม่สนใจจะเข้าวงก็ยอมเข้าด้วย จึงพูดเล่นๆ ว่า “ถ้าเปลี่ยนมือกีตาร์ ฉันเล่นให้ก็ได้” พวกเขาจึงไล่มือกีตาร์ออกจริงๆ TAIJI เป็นมือเบสของวง X ตั้งแต่ปี 1986-1992 เขาลาออกจากวง วันที่ 31 มกราคม 1992 หลังจากออกไปแล้วเขาก็ตั้งวงใหม่ขึ้นชื่อ D.T.R. นิตยสารของญี่ปุ่นเคยจัดอันดับว่า TAIJI เป็นมือเบสอันดับ 1 ของญี่ปุ่น แต่นอกจากฝีมือเบสแล้ว การเล่นกีตาร์ของเขาก็ไม่แพ้ใครเช่นกัน แม้แต่ HIDE เองยังบอกว่า เทคนิคทางกีตาร์ของ TAIJI ยอดเยี่ยมกว่าของเขา มันก็ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะอาจารย์สอนกีตาร์ของเขาคือ AKIRA TAKASAKI ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นมือกีตาร์อันดับ 1 ของเอเชีย....
PATA


PATA เป็นชื่อเล่นที่ได้มาจากการ์ตูนเรื่อง PATARIO เจ้าชายเมือง BANCORAN ชื่อนี้เป็นชื่อที่เรียกกันมาถึงทุกวันนี้ บางทีเขาก็ถูก HIDE เรียกว่า เจ้าชายผมแดง PATA เป็นคนเงียบๆ ง่ายๆ สบายๆ ทำอะไรใน STYLE ของตัวเอง ในตอนเด็ก เขาก็เป็นเด็กเรียนหนังสือเก่ง คะแนนจะอยู่ 1 ใน 10 ตลอด โดยเฉพาะคณิตศาสตร์จะถนัดมาก เจ้าตัวบอกว่าไม่ได้เก่งอะไรแค่ไป ร.ร.ทุกวัน ตอนอนุบาลเรียนออร์แกน แต่เกลียดการซ้อมโน๊ตด้วยแม็กเน็ตลงบน 5 เส้น เลยเลิกเรียนภายใน 4-5 ครั้ง ชั้นประถมก็เรียนวาดภาพ ป.4 ได้รางวัลประเภทภาพสีน้ำของเมืองชิบะ ขึ้นม.ต้นก็เรียนวาดภาพสีน้ำมัน แต่พอโตขึ้นเขากลับบอกว่าไม่ถนัดวาดรูปเลย เขาไม่ค่อยชอบกีฬาแต่เพื่อนรอบข้างจะเล่นกัน เขาเลยเล่นฟุตบอลนิดหน่อย เข้าสังกัดชมรมเทนนิสตอนม.ต้น พอ ม.2 ก็ได้เป็นนักกีฬาตัวจริง สาเหตุที่เริ่มเล่นเทนนิสก็เพราะเขาติดการ์ตูน (ผู้หญิง) เรื่อง ACE O NERAEI เขาชอบอ่านการ์ตูน ของสะสมของเขาก็คือหนังสือการ์ตูน เขาไป ร.ร.จริงจังจนถึง ม.1 เท่านั้น หลังจากนั้นก็เริ่มขาดเรียนบ่อยๆ และพอ ม.3 ก็ไม่ได้ไป ร.ร.เลย เขายอมรับว่าเขาเป็นเด็กที่เกลียด ร.ร.มาก ไม่ใช่เพราะถูกรังแกหรือเกลียดการเรียน แต่เขารำคาญการที่ต้องไป ร.ร. เพราะร.ร.เดิมของเขานั้นเดินจากบ้านแค่ 10 นาทีเท่านั้น แต่ ร.ร. ม.ปลายต้องใช้เวลาในการเดินทางถึง 1.30 ชม. ทำให้เขาเริ่มที่จะไม่ไป เขาหมกตัวอยู่ในบ้านเพื่อดีดกีตาร์ทั้งวัน ตอนกลางคืนก็จะฟังรายการเพลงต่างๆ เพื่อเก็บข้อมูลทางด้านดนตรีทั้งหมด เขาเริ่มฟังดนตรีมาตั้งแต่ป.4 ดนตรีแรกที่สัมผัสคือ เพลงของ THE BEATLES ที่พี่ชายของเพื่อนเอามาให้ฟัง จากนั้นก็ชอบ KISS, AERO SMITH และวง ROCK ต่างๆ เช่น CHEAP TRICK เป็นต้น แต่ที่สร้างความประทับใจให้เขามาที่สุดในตอนนั้นคือ ริค นิลเซน มือกีตาร์วง CHEAP TRICKเขาชอบความเท่ห์ของริคทำให้เขาเริ่มซ้อมกีตาร์โฟลกของน้องสาว จากนั้นก็ชอบ ริช แบล็คมอร์ (DEEP PURPLE-RAIN BOW) ทำให้เขากลายเป็นหนุ่ม HARD ROCK เขาไม่มีโอกาสโชว์ฝีมือทางกีตาร์ เพราะเขาไม่มีเพื่อนที่ตีกลองได้เลยทำให้ตั้งวงไม่ได้ เขาจึงได้แต่ซ้อมกีตาร์กับเพื่อนนิดหน่อยเท่านั้น หลังเข้าเรียนชั้น ม.ปลาย ก็เริ่มตั้งวงกับเพื่อนที่รู้จักที่ร้านขายเครื่องดนตรี และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาได้ค่อยได้ไป ร.ร. ในงาน ร.ร.ฤดูใบไม้ร่วง เขาพาวงดนตรีของเขามาร่วมงาน ชายคนที่ไม่ค่อยมา ร.ร.แต่มาปรากฏตัวบนเวที มีเทคนิคกีตาร์เกินกว่าเด็กชั้น ม.ปลาย ทำให้เพื่อนๆ สนใจ เขาจึงกลายเป็นฮีโร่ภายใน 1 วัน หลังจากนั้นเขาก็ไม่ไป ร.ร.อีกเลย วงที่เข้าร่วมชื่อ BLACK ROSEเขาได้ดูการแสดงบนเวทีของ X ในการแข่งขันของชิบะ ในตอนนั้น TOSHI ยังผมสั้นอยู่ YOSHIKI ก็หน้าแก่จนคิดไม่ถึงว่าเป็นเด็ก ม.ปลาย หลังจากนั้นเขาก็ย้ายมาอยู่วง JUDY แสดงที่ LIVE HOUSE ในโตเกียว จึงทำให้เริ่มสนิทกับ TOSHI และ YOSHIKI ในที่สุดวง JUDY ก็แยกตัวกันไป PATA ก็ไปทำงานพิเศษ ในเวลานั้น YOSHIKI โทรมาหาและบอกว่า “คนเล่นกีตาร์ลาออกไปแล้ว ช่วยมาเล่นให้หน่อยได้มั้ย” เขาอยากเล่นกีตาร์มากจึง ตอบตกลงไปด้วยความดีใจ และนี่ก็เป็นเหตุให้เข้าร่วมวง X ได้ในที่สุด ทรงผมของ PATA ในตอนแรกๆ จะเป็นทรง MOHICAN (ไถ่ผมทั้ง 2 ข้างออกหมดยกเว้นตรงกลางแล้วตั้งขึ้นเหมือนนกหัวขวาน) ผู้ออกแบบทรงผมและสีผม (สีแดง) ก็คือ HIDE นั้นเอง PATA ยอมตัดผมทรงนี้เพราะไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร แต่ปัจจุบันก็ไว้ผมยาวหยิกเป็นลอนๆ ดูเท่ห์มากเวลาเล่นกีตาร์ ...
HEATH


HEATH เป็นคนเรียบร้อย ทำงานมีระเบียบแบบแผน รักความสะอาด เขาจะทำความสะอาดห้องและจัดโต๊ะของเขาให้สะอาดและเป็นระเบียบอยู่เสมอ ใจดี ชอบTAKECAREคนอื่น แต่ 2 อันหลังเขาบอกว่าไม่ค่อยแสดงออก สิงหาคม 1992 X-Japan ประกาศตัวมือเบสคนใหม่ นั่นคือ HEATH ชายที่อายุน้อยที่สุดในวง ในตอนแรกเขาได้รับแรงกดดันมากทีเดียวเพราะความที่เป็นคนใหม่ อีกทั้งยังต้องเล่นในตำแหน่งของ TAIJI ที่มีเทคนิคและฝีมือดีมาก เขาต้องซ้อมหนักกับเพลงต่างๆ ของ X แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจาก TAIJI เป็นอย่างดีหลังจาก ART OF LIVE แล้ว เขาก็เป็นที่ยอมรับของแฟนๆ HEATH เป็นมือเบสของ X ตั้งแต่ปี 1992-1997 ประวัติในวงการ 1985 เข้าวง PARANOIA เป็นวงใต้ดินที่โอซาก้า 1986 เข้าวง MEDIA YOUTH เป็นวงใต้ดินที่โตเกียว 1991 ร่วมงาน EXTACY SUMMIT 1991 1992 เข้าวง X หลังจาก TAIJI ออกได้ 10 เดือน เพราะ HIDE โทรไปชวนให้มาช่วยเล่นให้ X ทำงานชิ้นแรกร่วมกับ X ; MINI ALBUM ART OF LIVE 22.2.1995 ออก MINI ALBUM & VDO. PACKAGE LIMITED SALES ( TOP 1 VDO. ) 7.10.1996 ออก SINGLE แรก เมเคียวโนะ เลิฟเวอร์ เป็นเพลง ENDING ของการ์ตูนเรื่อง โคนันยอดนักสืบ 19.2.1997 ออก SINGLE ที่สองชื่อ TRAITOR ปัจจุบัน HEATH เปิดบริษัทชื่อ M ’S COMPANY ร่วมกับ TATSUYA พี่ชาย ตั้งอยู่ที่ตึก LEMONed ที่เดียวกับบริษัทของ HIDE ...
Thx to http://www.xjapanthailand.co.nr for Data of X's members kub
เพลงแนะนำครับ
CRUCIFY MY LOVE
http://music.mercigod.com/play.php?songid=2557
Crucify my love . if my love is Blind
Crucify my love . if it's set me free
Never know Never Thrust
That's Love should see a colour
Crucify my love
if it should be the way
Swing the heartache
Feel it inside out
When the wind cried
I will say goodbye
Tried 2 learn tried 2 find
to reach out for e"TER"nity
Where's is the Answer
is this forever ..
Like a river falling to the sea
You'll be miles away
and i will know i can deal with the pain
No reason to cry
'till the loneliness shadow the sky
i'll be sailing down and i will know i know i can clear cloud away
Oh ! is it a crime
To Loveeee
ENDLESS RAIN
http://music.mercigod.com/play.php?songid=2556
I'm walking in the rain
yuku ate mo naku kizutsuita
karada nurashi karamitsuku
koori no zawameki
koroshi tsuzukete samayou itsu made mo
Until I can forget your love
nemuri wa mayaku tohou ni kureta
kokoro o shizuka ni tokasu
mai agaru ai o odorasete
furueru karada o kioku no bara ni tsutsumu
I keep my love for you to myself
* Endless rain, fall on my heart kokoro no kizu ni
Let me forget all of the hate, all of the sadness
(speek) Days of joy,
days of sadness slowly pass me by
As I try to hold you, you are vanishing before me
You're just an illusion When I'm awaken,
my tears have dried in the sand of sleep
I'm a rose blooming in the desert
It's a dream, I'm in love with you
madoromi dakishimete * repeat
I awake from my dream
I can't find my way without you
The dream is over
koe ni naranai kotoba o kurikaeshite mo
takasugiru hai iro no kabe wasugi satta hi no
omoi o yume ni utsusu
Until I can forget you love
Endless rain,
let me stay evermore in your heart
Let my heart take in your tears,
take in your memories
Tears Version พิณ!
Say Anything
Voiceless Screaming
Kurenai
SILENT JEALOUSY
Weekend
Forever Love In Last Live
Rose of pain
Dahlia
Scars
Rusty nail
UNFINISHED
Foreign Sand With Roger Taylor (Queen)
Rare X-Japan: "Light Breeze" Demo Tape

Yoshiki & Tetsuya Komuro วง Globe เพื่อนโยชิกิ - Eyes Of Venus (Live)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น